ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังซบเซา เมื่อพูดถึงองค์กรหลาย ๆ เเห่งที่ต้องมีการลดจำนวนพนักงานลงถึง 50% เเละเริ่มหันมาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ซึ่งสามารถเข้ามามีบทบาทในการช่วยเเก้ปัญหา เเละตอบปัญหาได้เเทบทุกอย่าง จากการจ้างคนหลายคนเพื่อทำงาน เมื่อใช้เทคโนโลยี AI อาจจะสามารถทำให้งานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เเละรวดเร็วขึ้น เครื่องมือในการช่วยทำงานก็มีเทคโนโลยี AI มาเป็นตัวช่วย เรียกได้ว่า เป็นตัวช่วยหลักในสายงานทุกเเขนงอย่างเเท้จริง

ปัจจุบันที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทหลักในทุกสายงานเเบบนี้ อาจจะเกิดผลกระทบทางตรงกับพนักงานบริษัทโดยตรง เเต่ถ้ามองอีกมุมก็อาจจะเป็นเรื่องดีที่เป็นตัวช่วยในการทำงานให้สำเร็จเร็วขึ้น จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เเละการเรียนรู้ของเครื่อง (ML) สองสิ่งนี้ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงในหลาย ๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมทางการเเพทย์ เเละอุตสาหกรรมการตลาด การปลดล็อกรูปเเบบเดิมที่ทำให้ผลงาน หรือผลผลิตช้า เเต่เมื่อเริ่มใช้เทคโนโลยี AI ได้ผลงานเร็วขึ้นถึง 2 เท่า

การพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่องของนักวิจัยเเละพัฒนา ซอฟเเวร์ที่สามารถช่วยเเก้ปัญหาได้ เเละตอบโจทย์การใช้งานให้กับผู้ใช้งานได้มากที่สุดอย่าง chat gpt ที่เข้ามามีบทบาทเต็มตัว ซึ่งไม่ว่าจะถามอะไรก็สามารถตอบได้ทุกเรื่อง ความเฉลียวฉลาดของเทคโนโลยี AI อุตสาหกรรมใดบ้างที่มีการใช้เทคโนโลยี AI เเล้วชีวิตดีขึ้นทันตาเห็น

ในอุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพ เทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นเหมือนขาเเละเเขน เป็นอวัยวะที่สำคัญของอุตสาหกรรมนี้ อัลกอริธึม AI เเละ ML เข้ามาช่วยในเรื่องของการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยมากมาย เพื่อให้การวินิจฉัยที่เเม่นยำ ซึ่งสำหรับเเผนการรักษาเฉพาะบุคคล เริ่มตั้งเเต่การตรวจพบโรคต่าง ๆ เช่น การตรวจพบเซลล์มะเร็งในร่างกายมนุษย์ตั้งเเต่ระยะเริ่มต้นไปจนถึงกระบวนการรักษา รวมถึงการผ่าตัด

อุตสาหกรรมการเงิน ก็มีการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาตรวจับธุรกรรมทางเงินที่มีการฉ้อโกง วิเคราะห์การประเมินความเสี่ยงด้านเครดิต การใช้ Chatbot ในการให้บริการลูกค้าถือว่าเป็นอุตสหกรรมเเรก ๆ ที่เริ่มมีการใช้เเชทบอทในการบริหารงานด้านการบริการลูกค้า เป็นเทคโนโลยี AI ที่เปรียบเสมือนที่ปรึกษาทางการเงิน ทำหน้าที่หลัก ไม่ว่าจะเป็น ให้คำเเนะนำทางการเงินส่วนบุคคล การปรับปรุงกระบวนการ การเพิ่มประสิทธิภาพความพึงพอใจของลูกค้า เป็นโซลูชั่นที่สามารถเเก้ปัญหา เเละปรับปรุงการให้บริการลูกค้าได้เป็นอย่างดี

อุตสาหกรรการขนส่ง ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของการใช้ชุดคำสั่งในระบบซอฟเเวร์สำเร็จรูป เพื่อให้การขับขี่ยานพาหนะเป็นลักษณะอัตโนมัติ การพัฒนาระบบการนำทาง เพิ่มประสิทธิภาพระบบการจราจร

อุตสาหกรรมความบันเทิง ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่นิยมเล่นโซเชียลมีเดียของเเพลตฟอร์ม tiktok มาเป็นอันดับหนึ่ง คอนเทนต์ที่เป็นวิดิโอ การไลฟ์สด เข้ามามีอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น ทั้งนี้ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี AI ก็เข้ามาซัพพอร์ตในสายงานกราฟิกได้เป็นอย่างดี การตัดต่อวิดิโอเเละเสียง

อุตสาหกรรมทางการตลาดที่อาจจะส่งผลให้สายงานการตลาดออนไลน์มีอัตราการจ้างงานลดลงเลยทีเดียว เนื่องจาก AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าตำนวนมหาศาลได้เป็นอย่างดี สำหรับธุรกิจต่าง ๆ ที่มีการทำเเคมเปญทางการตลาด การเเนะนำสินค้าเเละผลิตภัณฑ์ การรู้ถึงประสบการณ์ของลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อเเบรนด์หรือที่เข้าใจกับว่า Brand Loyalty การหาเเนวทางให้กลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมในเเคมเปญโฆษณามากยิ่งขึ้น

ความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่สายงานไอทีต้องใช้เทคโนโลยี AI โดยตรง การตรวจจับพฤติกรรมที่เป็นอันตราย ความผิดปกติ การปกป้องข้อมูลที่ถูกละเมิด ด้วยปัญหาจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น อัลกอริธึม AI ที่มีชุดคำสั่งเฉพาะก็จะเข้ามามีส่วนช่วยในการรักษาความปลอดภัยในส่วนนี้ให้มากขึ้น เพราะข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโจรกรรมทางอินเทอร์เน็ตก็ยังคงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี AI เเละ ML นั้นกว้างขวาง เเละในขณะที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มีความก้าวหน้าไปไกลมาก เเละมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สิ่งหนึ่งที่เทคโนโลยี AI อาจจะยังตอบโจทย์ หรือถูกเเทนที่มนุษย์ได้ 100% ก็คือ การประมวลผลออกมาให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย การคิดค้นของนักวิจัยเเละพัฒนาก็ไปค้นพบการควบรวมหุ่นยนต์เเละ AI อีกทั้งรวมตัวกับเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่ชื่อว่า IoT เเละ Big Data ทั้งนี้ไม่ว่าเทคโนโลยีจะไปไกลถึงเพียงใด เเต่ต้องให้ความสำคัญกับความคิดที่สร้างขึ้นเองด้วย สำหรับงานเขียนที่สามารถใช้ chat gpt หรือ google bard ในการหาเเนวทางที่จะเขียนได้ เเต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัวในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ งานกลุ่มนี้ยังคงต้องใช้เเรงกาย เเรงใจของมนุษย์ในการเขียนเป็นหลักอยู่