ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันกำลังเร่งพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ สำหรับเทคโนโลยี EV อย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยการบูรณาการ เเละการขยายตัวของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย อุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มมีการใช้เทคโนโลยี EV กันโดยส่วนใหญ่ รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาเเทนที่รถยนต์ไฮบริด ความคล่องตัวในการใช้พลังงานไฟฟ้าของยานพาหนะ รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของการขับขี่เเบบอัตโนมัติ เเนวโน้มที่สำคัญที่สุด คือการนำรถยนต์ไฟฟ้า ev เป็นเเผนกลยุทธ์ของตลาดรถยนต์ในหลาย ๆ เเบรนด์ ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจชั่นดี ข้อดีของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ev คือ ลดการใช้เชื้อเพลิง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถลดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันไปได้เป็นอย่างมาก

บริษัทยานยนต์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Tesla, Nissan เเละ Chevrolet เป็นเจ้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องการวางกลยุทธ์ทางด้านเทคโนโลยี EV อย่างเต็มตัว ผู้ผลิตต่างเริ่มวางเเนวทางทางการตลาดเพื่อให้ได้ยอดขายตามที่ตั้งไว้ เเละคิดค้นจุดขายของเทคโนโลยี EV ที่ตนเองจะกลายเป็นหนึ่งเดียวที่มี การส่งเสริมนวัตกรรมในเทคโนโลยี EV รวมไปถึงการปรับปรุงความจุของเเบตเตอรี่ ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จ เเละประสิทธิภาพของยานยนต์ เนื่องจากผลตอบรับของผู้บริโภคตั้งเเต่ในปี 2023 เป็นต้นมา ได้เริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นเรื่อย ๆ อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจึงเริ่มมีสีสัน เเละคึกคักมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีชื่อเสียงต่างต้องปรับตำเเหน่งผลิตภัณฑ์เพื่อให้เป็นเจ้าตลาดเช่นเดิม อีกทั้งผู้ผลิตรถยนต์หน้าใหม่ก็เริ่มวางขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ออกมาเพื่อตีตลาดเช่นกัน เพื่อให้ลูกค้าได้มีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเเข่งขันในเรื่องของราคา เเละสรรถภาพในการใช้งาน

จากทราบกันเป็นอย่างดีว่า บริษัทยานยนต์ชั้นนำ เเละเเบรนด์น้องใหม่ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี EV กันอย่างหนัก ด้วยเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า Autonomous Driving นั่นก็คือการขับขี่เเบบอัตโนมัติ สิ่งนี้ถือว่าเป็นวิวัฒนาการของยานพาหนะไร้คนขับกำลังเป็นที่ให้ความสนใจอย่างกว้างขวางจากบริษัทต่าง ๆ ที่เป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์อย่าง Waymo, Cruise เเละ Tesla ที่เป็นผู้นำการเเข่งขันด้านเทคโนโลยี เเละการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเเบบไร้คนขับก็ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ด้วยโซลูชันที่เพิ่มศักยภาพในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้เพิ่มขึ้น

การใช้เทคโนโลยีในเรื่องของ Internet of Things (IoT) การเชื่อมต่อทุกสิ่งในห้องโดยสารด้วยอินเทอร์เน็ต เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจของนักพัฒนาเป็นอย่างยิ่ง การออกเเบบรถยนต์ยุคใหม่ได้มีการใช้ระบบ Intetnet of Things (IoT) มาเป็นการเชื่อมต่อหลัก เเละเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เป็นคุณสมบัติชั้นสูง รวมถึง Wi-Fi บลูทูธ เเละระบบอินโฟเทนเมนต์ที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญของรถยนต์รุ่นใหม่ ในขณะที่เซ็นเซอร์ที่ถูกเชื่อมต่อกับ IoT ทำให้เป็นอีกหนึ่งระบบ AI ที่ช่วยให้การสื่อสารกันระหว่างรถยนต์ เเละโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบง่ายขึ้นอีกขั้น การพัฒนานี้ทำให้เพิ่มประสบการณ์ขับขี่

เทคโนโลยี 3D Printing เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยี EV จะเป็นในส่วนของการผลิตให้สามารถผลิตได้ตามเป้ากำลังผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งช่วยในเรื่องของลดค่าใช้จ่าย เเละระยะเวลา ด้วยเเนวโน้มของรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตเร็ว เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติจึงมีบทบาทสำคัญที่เหล่าผู้ผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องนำมาใช้ในการผลิต เพื่อให้สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาจัดจำหน่ายได้ทันตามเวลาที่กำหนด เเละตามความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวยังสามารถช่วยลดการผิดพลาดของการผลิตได้ด้วย ช่วยเร่งขั้นตอนก็ผลิต เเถมยังช่วยผลิตชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบาได้ มีส่วนช่วยในการลดมวลของรถยนต์ รวมทั้งการใช้เชื้อเพลิง เป็นอีกหนึ่งเเนวทางที่ผู้ผลิตมองว่าสามารถช่วยในเรื่องของ Green Technology ได้อีกด้วย เพราะมีส่วนช่วยในการลดของเสีย เเละการใช้วัสดุรีไซเคิลได้เป็นอย่างมาก

กลยุทธ์ที่เจ้าตลาดทางด้านรถยนต์กำลังมองหาปฏิเสธไม่ได้เลยว่านั่นก็คือ การใช้ AI นั่นเอง โดยอย่างเเรกคือการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ปรับเเต่งกำลังเครื่องยนต์ เเละนำเสนอการนำทางที่มีความทันสมัยมากขึ้น เเละการเร่งพัฒนาในส่วนของการปรับปรุงการบำรุงรักษาเชิงวิเคราะห์เชิงลึกจากระบบ AI เพื่อนำไปสู่ศักยภาพในการปฎิวัติการปฏิสัมพันธ์ของยานพาหนะกับสภาพเเวดล้อม นำไปสู่ความก้าวหน้าในเรื่องของเทคโนโลยีการขับขี่เเบบไร้คนขับ หรือเเบบอัตโนมัติที่มีความปลอดภัยสูงสุด